แนวโน้มราคาทอง
ทดสอบแนวต้าน $3,390
- ราคาทองโลกปรับตัวลงในช่วงเช้า
- ตลาดรอติดตามความขัดแย้งอิสราเอล – อิหร่าน
Gold spot
สูงสุด – 3,387 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,347 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 52,400 บาท
ต่ำสุด – 52,250 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ช่วงบ่ายที่ผ่านมาราคาทองโลกฟื้นตัวหลังทดสอบแนวรับที่ 3,347 ดอลลาร์ จากการที่อิหร่านรายงานว่า โรงงานผลิตน้ำมวลหนัก (Heavy water) ในเมืองอารักของอิหร่านถูกอิสราเอลโจมตี ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่ทว่าโรงงานดังกล่าวได้มีการอพยพคนออกมาก่อนเกิดเหตุโจมตี และไม่มีความเสี่ยงของการรั่วไหลของกัมมันตรังสี ในขณะที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ให้คำตอบชัดเจนว่าจะเข้าร่วมกับอิสราเอลหรือไม่ โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ผมอาจจะทำ หรืออาจจะไม่ทำก็ได้ ไม่มีใครรู้ว่าผมจะทำอะไร” อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ วางแผนที่จะจัดการเจรจานิวเคลียร์ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านในวันศุกร์นี้ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเรียกร้องให้อิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจาอย่างสันติ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
เวลา 18.00 น. ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองโลกในช่วงเช้าปรับฐานลงทดสอบแนวรับที่ 3,347 ดอลลาร์ และมีการกลับตัวไต่ระดับขึ้น จึงประเมินว่าราคาทองโลกอาจมีการฟื้นตัวระยะสั้น โดยมีแนวด้านที่ระดับราคา 3,390 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ 3,347 และ 3,325 ดอลลาร์
แนวต้าน 3,390 และ 3,410 ดอลลาร์
ราคาทองโลกระยะสั้นมีการกลับตัวไต่
ระดับขึ้น จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อจากระดับแนวรับที่ 3,347 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 3,390 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 3,325 ดอลลาร์
ลงไป
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ 52,000 และ 51,700 บาท
แนวต้าน 52,500 และ 52,800 บาท
ในช่วงเช้า ทองคำในประเทศไต่ระดับขึ้นจากเงินบาทที่อ่อนค่า หลังดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้นและปัจจัยภายในประเทศกดดัน จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อจากแนวรับที่ 52,000 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 52,500 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 51,700 บาทลงไป