สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (17 มิ.ย.) หลังจากนักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีก ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.84% แตะที่ระดับ 98.821
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.6% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนเม.ย. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนเม.ย.
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 32 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 36
คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ (18 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รวมทั้งรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์