การลงทุนซื้อทองคำรูปพรรณไม่ได้เป็นเพียงการสะสมสินทรัพย์มีค่าเท่านั้น แต่ยังเป็นการเลือกซื้อของที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ การเลือกสร้อยคอทองคำที่ทั้งสวยงามและทนทานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อทองควรคำนึงถึง เพราะสร้อยคอทองคำที่ทนทาน ไม่เพียงช่วยลดโอกาสเสียหาย แต่ยังสร้างความคุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจลวดลายสร้อยคอทองคำยอดนิยม และช่วยคุณหาคำตอบกับคำถามที่ว่า “ทองลายไหนทนที่สุด ?” ที่สามารถนำไปต่อยอดความคุ้มค่าในอนาคต

ความสำคัญของ “ลวดลาย” ในทองรูปพรรณ
ลวดลายของทองรูปพรรณไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความงามเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงโครงสร้างและความแข็งแรงของตัวชิ้นงาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ลวดลายทองที่มีลักษณะ “ตัน” หรือ “ถักแน่น” มักจะมีความแข็งแรงกว่าแบบที่ “โปร่ง” หรือ “ฉลุ” เพราะอาจเสี่ยงต่อการขาดหรือบุบง่ายเมื่อต้องเผชิญแรงดึงหรือแรงกด
อย่างไรก็ตาม ความทนทานไม่ได้หมายถึงความแข็งกระด้างเสมอไป เพราะยังมีหลายลายที่สามารถผสานความยืดหยุ่นและความอยู่ตัวได้อย่างลงตัว
ลายทองที่ทนที่สุด 5 อันดับ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
1. ลายสี่เสา
ถ้าถามว่าทองลายไหนทนที่สุด ? หนึ่งในคำตอบอันดับต้น ๆ ต้องมี “ลายสี่เสา” รวมอยู่ด้วยแน่นอนโดยลายสี่เสาเป็นหนึ่งในลายสร้อยคอที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยความโดดเด่นทั้งในด้านความสวยงามและความทนทาน ตัวสร้อยถูกถักทออย่างละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถโค้งงอได้โดยไม่เสี่ยงหักหรือขาดง่าย
จุดเด่นของลายสี่เสาคือโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง ดังชื่อที่บ่งบอกถึงการมี “เสา” หรือโครงหลักสี่ด้านที่ให้ความแข็งแรง ทำให้ทนต่อแรงดึงและแรงบิดได้ดีเยี่ยม ซึ่งในกระบวนการผลิต ช่างทองจะใช้ลวดทองคำขนาดเล็กหลายเส้นมาถักสานเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา ทำให้เกิดความแน่นและแข็งแรงสูงกว่าลายทั่วไป
สำหรับการใช้งานประจำวัน ลายสี่เสาจะทนต่อการสัมผัสกับเหงื่อ น้ำ หรือแม้กระทั่งการเสียดสีกับเสื้อผ้าได้ดี อีกทั้งยังรักษารูปทรงได้ยาวนาน ไม่ยืดหรือหย่อนง่าย นับเป็นตัวเลือกลายทองที่ทนที่สุดและคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสร้อยทองที่ใช้ได้ในระยะยาว
2. ลายเบนซ์
อีกหนึ่งลายยอดนิยมตลอดกาล ด้วยลักษณะกึ่งโปร่งกึ่งตันและการถักทอที่ประณีต ทำให้ลายนี้มีความแข็งแรงสูง ไม่บุบหรือขาดง่าย ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ที่ชอบสวมใส่สร้อยทองเป็นประจำ
โครงสร้างของลายเบนซ์มีความโดดเด่นตรงที่ถูกออกแบบให้แต่ละข้อมีการเชื่อมต่อกันอย่างซับซ้อน คล้ายกับลูกโซ่ของรถยนต์ ทำให้เป็นหนึ่งในลายทองที่ทนที่สุด เพราะสามารถรับแรงกระแทกและแรงดึงได้อย่างกระจายตัว ลดความเสี่ยงต่อการขาดเมื่อเกิดแรงดึงในจุดใดจุดหนึ่ง
ความพิเศษอีกประการของลายเบนซ์คือความยืดหยุ่นที่เหมาะสม ไม่แข็งจนเกินไป ทำให้สวมใส่สบาย ลื่นไหลตามรูปทรงของผู้ใส่ แต่ก็ไม่อ่อนจนยืดตัวเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ความสมดุลนี้ทำให้ลายเบนซ์เหมาะสำหรับการสวมใส่เป็นประจำ และยังคงความสวยงามแม้ผ่านการใช้งานมาหลายปี
3. ลายผ่าหวาย
ลายผ่าหวายเป็นลายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดีไซน์เรียบง่าย แต่ยังคงความโดดเด่นด้วยความมันวาวของตัวสร้อย ลักษณะของลายคือโซ่เม็ดกลมที่เรียงต่อกัน มีความโปร่งเล็กน้อย ทำให้มีน้ำหนักที่พอเหมาะ ไม่หนักจนเกินไป
แม้จะดูเรียบง่าย แต่ลายผ่าหวายก็เป็นหนึ่งในลายทองที่ทนที่สุดเช่นกัน ด้วยโครงสร้างที่แต่ละข้อถูกเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา ทำให้ทนต่อการใช้งานได้ดี ไม่ขาดหรือบิดเบี้ยวง่าย นอกจากนี้ ข้อต่อที่แข็งแรงยังช่วยป้องกันการหลุดหายของสร้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสร้อยลายอื่น ๆ
ในแง่ของอายุการใช้งาน ลายผ่าหวายเป็นลายที่คงความสวยงามได้ยาวนาน แม้จะผ่านการสวมใส่เป็นประจำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้อยทองที่ใช้งานได้ทุกโอกาส ทั้งในชีวิตประจำวันและงานพิธีการ
4. ลายคตกิต
อีกหนึ่งลายที่ผสมผสานความสวยงามและความแข็งแรงได้อย่างลงตัว ด้วยลักษณะโซ่รีที่เรียงต่อกันเป็นเส้น ลายคตกิตจึงมีความยืดหยุ่นสูงและไม่ขาดง่าย เมื่อสวมใส่จะให้ความรู้สึกนุ่มและลื่นไหล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้อยที่สวมสบาย
จุดเด่นของลายคตกิตอยู่ที่โครงสร้างที่มีความซับซ้อนภายใน แต่ให้ภาพลักษณ์ภายนอกที่เรียบหรู แต่ละข้อของสร้อยถูกเชื่อมต่อกันในลักษณะที่ให้การเคลื่อนไหวได้อิสระ แต่ยังคงความแน่นหนา ทำให้ทนต่อแรงดึงได้ดีเยี่ยม ไม่มีจุดอ่อนที่จะทำให้เกิดการขาดได้ง่าย
ถึงแม้จะมีความยืดหยุ่นสูง แต่ลายคตกิตไม่ยืดตัวเมื่อใช้งานไปนาน ๆ โดยจะยังคงรูปทรงเดิมได้อย่างดี ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

5. ลายซีตรอง
ปิดท้ายการแนะนำลายทองที่ทนที่สุดด้วย “ลายซีตรอง” ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ ซึ่งมีทั้งแบบกึ่งโปร่งและแบบตัน ความพิเศษของลายนี้คือความอยู่ตัวที่ดีมาก แม้จะเป็นเส้นตัน ลายซีตรองก็ไม่หักหรืององ่าย สามารถรักษารูปทรงได้แม้ผ่านการใช้งานมายาวนาน
โครงสร้างของลายซีตรองมีลักษณะคล้ายผิวส้มหรือมะนาวที่มีพื้นผิวขรุขระเล็กน้อย ทำให้มีความหนาแน่นสูง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความมั่นคงและน้ำหนักที่พอเหมาะ ความหนาแน่นนี้ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอและรอยขีดข่วน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่สูญเสียความสวยงาม
สำหรับผู้ที่ชอบสวมใส่สร้อยทองประจำวัน ลายซีตรองเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากพื้นผิวมีลักษณะเฉพาะช่วยอำพรางรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ได้ดี ทำให้ดูใหม่อยู่เสมอแม้จะผ่านการใช้งานมานาน
ครบครันเรื่องทองรูปพรรณที่เปี่ยมทั้งคุณภาพและความทนทาน ต้องที่ร้านทองเยาวราช “ฮั่วเซ่งเฮง” เพราะด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า 70 ปี คุณจึงสามารถสั่งทำทองรูปพรรณทั้งสร้อยทอง 1 สลึง สร้อยทอง 1 บาท รวมถึงปี่เซียะทองแท้เพื่อเสริมมงคลให้ชีวิต กรอบพระเลี่ยมทองคำพร้อมสร้อยที่สามารถเลือกลวดลายได้ หรือจะเลือกซื้อทองรูปพรรณในโอกาสพิเศษอย่างจี้ทองคำเพื่อเป็นของขวัญเด็กแรกเกิด รวมถึงกำไลทองแท้ และต่างหูทองก็สามารถสั่งทำได้เช่นกัน มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นจะได้รับการออกแบบและจัดทำอย่างประณีตโดยช่างทองคู่ร้านที่มีประสบการณ์สูง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-112-2222 ได้ตลอดเวลาทำการตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.30 – 17.00 น.
แหล่งอ้างอิง
1. 7 Strongest Gold Chains. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน จาก https://millenniumjewelery.com/blogs/education/how-to-choose-the-types-of-strongest-gold-chains-the-complete-guide