แนวโน้มราคาทอง
Wait and see
- ราคาทองปรับตัวขึ้น +47.33 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.39%
- ปิดตลาดที่ระดับ 3,433 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 3,446 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 3,379 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 52,550 บาท
ต่ำสุด – 52,550 บาท
ภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองปรับขึ้นแรงทะลุ $3,400 เพิ่มขึ้น $124 โดยวันศุกร์ปรับขึ้นแรง $47 จากการที่สถานการณ์ตะวันออกกลางอาจทวีความรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่การโจมตีระหว่างอิหร่านและอิสราเอล โดยอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอล ขณะที่ทางอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ โรงงานผลิตขีปนาวุธ และผู้บัญชาการทหารของอิหร่าน ทำให้ตลาดกังวลอิหร่านอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันราว 1 ใน 5 ของโลก ทางฝั่ง Bank of America คาดราคาทองมีแนวโน้มแตะ 4,000 ดอลลาร์ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ส่วนทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทอง 6.28 ตันในสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ มีการเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก เดือน มิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ช่วงเช้านี้ราคาทองโลกฟื้นตัวขึ้นมาจากปัจจัยที่เข้ากระทบ แต่ราคายังติดแนวต้านที่ระดับ 3,450 ดอลลาร์ และเริ่มย่อตัวลงอีกครั้ง แม้ในช่วงเช้าประเมินว่าอาจมีการย่อตัวสั้นๆ โดยมีแนวรับสำคัญในเช้านี้อยู่ที่ระดับ 3,430 ดอลลาร์ได้ จึงแนะนำรอดูแนวโน้มในช่วงเช้านี้ก่อน
ราคาทองตลาดโลก
แนวรับ : 3,405 และ 3,385 ดอลลาร์
แนวต้าน : 3,450 และ 3,480 ดอลลาร์
เช้านี้ราคาทองโลกที่ฟื้นตัวขึ้นมา จากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ 3,430-3,450 ดอลลาร์ จึงแนะนำรอดูการเคลื่อนตัวในช่วงเช้านี้ก่อน
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
แนวรับ : 52,500 และ 52,150 บาท
แนวต้าน : 53,050 และ 53,450 บาท
เช้านี้ทองคำในประเทศมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น จากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่ราคาที่ปรับตัวขึ้นอาจตอบรับปัจจัยที่เข้ากระทบไปแล้ว จึงไม่แนะนำรอดูการเคลื่อนตัวของราคาในช่วงเช้านี้ก่อน โดยหากราคาลงทดสอบแนวรับที่ 52,500 บาท อาจเสี่ยเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 53,050 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 52,150 บาทลงไป